76 ปี วัดนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู หัวหิน
ค.ศ. 1935 – 2011
- สมุดบันทึกประจำวันของบ้านซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทำให้เราได้ค้นพบจิตใจที่ทุ่มเทและอุทิศตนของบรรดาธรรมทูตในยุคบุกเบิก น้ำหมึกที่บางส่วนเริ่มจะเลือนลางไปตามกาลเวลา ดูจะกลมกลืนกับความเก่าแก่ของกระดาษที่แต่งแต้มด้วยร่องรอยของอดีต แต่ทุกตัวอักษรได้บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนได้อย่างลึกซึ้งกินใจ บางอย่างที่ขาดหายไปยังคงถูกเชื่อมต่อด้วยจินตนากา รอันทรงพลัง และความทรงจำที่มีคุณค่า
- คณะซาเลเซียนของนักบุญยอห์น บอสโก ได้เดินทางเข้ามาประกาศพระวรสารในประเทศไทย เมื่อปี ค.ศ.1927 ด้วยจำนวนสมาชิกที่ยังไม่มากนักประกอบกับขีดจำกัดในหลาย ๆ ด้าน การขยายงานแห่งการรับใช้ในระยะแรกๆ จึงอยู่ในวงแคบ อย่างไรก็ดีใน ปี ค.ศ.1930 สมาชิกซาเลเซียนจากบางนกแขวก จ.สมุทรสงคราม ก็เริ่มรู้จักหัวหินในลักษณะที่เป็นเมืองตากอากาศ ในระหว่างปี 1931 ธรรมทูตซาเลเซียนได้พบว่ามีครอบครัวคริสตชนหลายครอบครัวทำกินอยู่ที่หัวหิน เมื่อคุ้นเคยกับหัวหินมากขึ้น คุณพ่อปาซอตตีก็เริ่มมองว่าที่แห่งนี้น่าจะมีความเหมาะสมเพื่อเป็นที่พัก ผ่อนเติมพลังให้กับสมาชิก และมีศักยภาพสำหรับการท่องเที่ยวในอนาคต เพราะเป็นเมืองชายทะเลที่มีภูมิประเทศสวยงามน่าประทับใจ ในแง่มุมของการเผยแผ่ข่าวดี ในช่วง 4 – 5 ปีแรก งานอภิบาลสัตบุรุษจะมีรูปแบบของการค้นหา เยี่ยมเยียน ถวายมิสซาและประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ และอื่น ๆ ตามโอกาส ส่วนสถานที่ก็ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม บางครั้งก็ใช้ที่ห้องพักของโรงแรม ต่อมาภายหลังจึงใช้บ้านคริสตชนเป็นที่รวบรวมสัตบุรุษ
- สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า พระญาณเอื้ออาทรของพระเป็นเจ้า คือการที่คุณพ่อมารีโอได้เดินทางไปหัวหินในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.1934 และในโอกาสนั้นท่านได้แจ้งให้ทุกคนทราบว่า พระคุณเจ้าปาซอตตีได้เลือกนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู เป็นองค์อุปถัมภ์กลุ่มคริสตชนหัวหิน ในเวลาใกล้เคียงกันนั้นผู้ใหญ่ของคณะก็เริ่มมองหาที่ดินเพื่อกิจการในอนาคต ทั้งนี้ด้วยความร่วมมือของครอบครัว เดอ เยซูซ์ แต่วัดหลังแรกก็ยังเป็นบ้านไม้แบบเรียบง่าย ได้มีพิธีเปิดวัดหลังแรก และฉลองนักบุญเทเรซาเป็นครั้งแรกที่หัวหิน ในวันที่ 3 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1934 ส่วนการซื้อขายที่ดินก็ได้บรรลุข้อตกลงในเวลาใกล้เคียงกัน จากนั้น จึงได้ดำเนินการสร้างบ้านพักตากอากาศโดยฝีมือของบรรดาเณร บ้านหลังดังกล่าวแล้วเสร็จในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1935 และในวันที่ 28 เมษายน พระคุณเจ้าปาซอตตีก็ได้ทำพิธีเสกบ้านรวมทั้งวัดน้อยนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
- ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี วัดนักบุญเทเรซาหัวหินดูไม่ต่างไปจากนักเดินทางที่ก้าวไปบนถนนแห่งความ เปลี่ยนแปลง มีบางเวลาผู้คนในอดีตได้ลิ้มรสเงามืดแห่งสงครามและแสงริบหรี่แห่งการรอคอย งานอภิบาลสัตบุรุษในบางช่วงเวลาเต็มไปด้วยความยากลำบาก บางครั้งหัวหินก็กลับเป็นที่หลบภัยสงคราม บางครั้งทุกคนก็เปี่ยมด้วยความหวัง วัดนักบุญเทเรซาในความหมายที่เป็นสิ่งก่อสร้างก็ต้องพเนจรไปตามการเปลี่ยน แปลงของอาคารสถานที่ บางทีก็เป็นส่วนหนึ่งของอาคารบ้านพัก บางทีก็เป็นส่วนหนึ่งของอาคารบ้านเณร และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของวัดเกิดขึ้น ในปี 1968 คณะซาเลเซียนได้สร้างวัดโดยแยกออกจากโรงเรียนและบ้านเณร ซึ่งวัดหลังนี้ได้รับการเสก ในวันที่ 3 ตุลาคม 1968 และในปี ค.ศ.1969 เมื่อกำเนิดสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี วัดนักบุญเทเรซา หัวหิน จึงเป็นวัดที่อยู่เหนือสุดในเขตความรับผิดชอบของสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี ในปี ค.ศ.1986 คุณพ่อเลโอได้ปรับปรุงและขยายวัดออกไปทั้งด้านข้างและด้านหน้า ดังที่ปรากฏในปัจจุบัน
- เมืองหัวหิน เข้าสู่ยุคสมัยของการเติบโตมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งก่อสร้าง และจำนวนของผู้คนในหัวหินบ่งชี้การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง และตอบสนองต่อความต้องการของสังคมให้มากที่สุด คณะซาเลเซียนจึงได้กำหนดแผนพัฒนาโรงเรียนหัวหินวิทยาลัยในหลาย ๆ ด้าน และ อาคารแม่พระองค์อุปถัมภ์ ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนดังกล่าว อาคารหลังนี้ได้สร้างแล้วเสร็จ ในปี ค.ศ.2007 เป็นอาคารที่ใหญ่โต สวยงาม ทันสมัย และมีพื้นที่ใช้สอยสนองตอบความต้องการของโรงเรียน แต่ผลที่ตามมาประการหนึ่งคือ อาคารเรียนหลังนี้ได้กินพื้นที่บางส่วนของวัด แต่เพื่อประโยชน์ทางการจัดการศึกษาอบรมแก่เด็กและเยาวชน พระคุณเจ้าโยเซฟประธาน ศรีดารุณศีล ซดบ. จึงได้มอบวัดและที่ดินของวัดนักบุญเทเรซาหลังปัจจุบันให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ โรงเรียน โดยมีข้อตกลงให้คณะซาเลเซียนดำเนินการสร้างวัดหลังใหม่ พร้อมทั้งบ้านพักพระสงฆ์ และอาคารประกอบอื่นๆ ที่จำเป็นเพื่อการให้การบริการแก่สัตบุรุษ ทั้งนี้ ให้ดำเนินโครงการดังกล่าวในที่ดินของสังฆมณฑลซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของคณะซา เลเซียนด้านทิศเหนือ หรือที่เรียกกันว่า ซอย 88
- คุณพ่อยอห์น บอสโก เทพรัตน์ ปิติสันต์ เจ้าคณะแขวงซาเลเซียนแห่งประเทศไทย จึงได้มอบหมายให้คุณพ่อเปาโล ประเสริฐ สมงาม เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ แต่ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2007 คุณพ่อประเสริฐ สมงาม ต้องย้ายไปปฏิบัติหน้าที่อธิการที่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย อ.บ้านโป่ง คุณพ่อออกัสติน ยะรัตน์ ไชยรา จึงต้องสานต่อโครงการก่อสร้างซึ่งได้เริ่มไว้แล้ว หลังจากการเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2008 ก่อนพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณโอกาสฉลองวัดประจำปี พระคุณเจ้าโยเซฟประธาน ศรีดารุณศีล แห่งสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานีก็ได้ทำพิธีเสกแผ่นศิลาฤกษ์ ซึ่งกระทำกันที่หน้าวัดเพราะพื้นที่ก่อสร้างชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนที่เทลงมา เมื่อตอนเช้ามืด เราไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้
- เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่เรายังคงเดินบนเส้นทางแห่งความเชื่อ ทรายทุกเม็ด เหล็กทุกเส้น และอิฐทุกก้อน ล้วนมาจากจิตศรัทธาของพี่น้องทั้งสิ้น แต่ด้วยการจัดซื้อจัดจ้างที่ดำเนินไปตามจังหวะของพระพร หลาย ๆ ท่านจึงรู้สึกว่าการก่อสร้างไม่คืบหน้ามากนัก บางวันเวลาความเมื่อยล้าและความท้อแท้ก็เข้ามาทักทายความรู้สึกของเรามนุษย์ นอกเหนือไปจากสายธารแห่งปัจจัย เราจึงต้องการพลังใจ เพื่อให้โครงการนี้ได้แล้วเสร็จตามกำหนด กล่าวคือเราจะทำพิธี เสกและเปิดวัดใหม่ในวันที่ 1 เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2011 หรือ หนึ่งหนึ่งศูนย์หนึ่งหนึ่ง (11011) เราได้ขีดเส้นชัยแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะยืนหยัดในความเชื่อ และความพากเพียรจนที่สุด ระยะเวลาดำเนินโครงการที่เหลืออีก 1 ปี เราจะร่วมแรงร่วมใจสร้างวัดใหม่ให้สำเร็จ ข้าแต่นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู ช่วยวิงวอนเทอญ